มติเห็นชอบสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง
มติเห็นชอบสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง เตรียมทำประชาพิจารณ์
มติเห็นชอบสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง เตรียมทำประชาพิจารณ์

ความงดงามของธรรมชาติ บนยอดภูกระดึง
การประชุมคณะอนุกรรมาธิการสร้างกระเช้าไฟฟ้าภูกระดึงจังหวัดเลยมีมติเห็นชอบดำเนินโครงการและเตรียมจัดประชาพิจารณ์รวบรวมข้อมูลเสนอ กมธ.ท่องเที่ยวฯ และสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาตัดสิน นายก อบจ.เลย ย้ำเพราะอาชีพชาวภูกระดึงไม่ใช่ลูกหาบ และชาวบ้านต้องการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่านี้
ทศพล สังขทรัพย์ รองประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมาธิการ เพื่อพิจารณาศึกษาเรื่องการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงจังหวัดเลย และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากโครงการ โดยที่ประชุมได้นำข้อมูลจากการศึกษาโครงการกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงจากบริษัทเอกชนที่จัดไว้เมื่อปี 2542 และจากการทำประชาพิจารณ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย และจากองค์กรหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมาศึกษา
ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง และเทศบาลภูกระดึง ชี้แจงว่าจากการที่ได้ทำการสำรวจสอบถามประชาชนที่เกี่ยวข้องกับอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ทั้งประชาชนและลูกหาบปรากฏว่าร้อยละ 87 เห็นด้วยกับการสร้างกระเช้าไฟฟ้าที่ต้องการให้สร้างโดยเร็ว เนื่องจากชาวบ้านเดินทางไปทำงานในกรุงเทพฯ กันมากขึ้น เพราะในพื้นที่ไม่มีงานให้ทำ อีกทั้งผู้ที่อายุเกิน 40 ปี หาบไม่ไหว ส่วนลูกหลานก็ต้องการเรียนหนังสือ และต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ต้องการยึดอาชีพลูกหาบไปตลอด
จากนั้น ทศพล ได้แถลงว่า มีมติที่ประชุมเห็นชอบกับการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง แต่ต้องจัดทำประชาพิจารณ์อีกครั้ง โดยมอบให้มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ดำเนินการเพื่อชี้แจงต่อประชาชนให้ทราบถึงผลดีผลเสียของโครงการนี้ให้ชัดเจน และกว้างขวาง ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการจะนำข้อมูลทั้งหมดจากจังหวัดเลย จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งจากจังหวัดเชียงใหม่และองค์กรเอกชนด้วย เพื่อเสนอสู่คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวฯ และเสนอสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาตัดสินใจต่อไป
ด้าน ชูศักดิ์ บัวระภา รองนายก อบจ. เลย กล่าวว่า ขณะนี้มีลูกหาบประมาณ 500 คน ซึ่งชีวิตลูกหาบไม่ใช่อาชีพหลักของชาวภูกระดึง อาชีพหลักคือการทำไร่ทำนา ส่วนผลการศึกษาสร้างกระเช้าไฟฟ้าภูกระดึงที่ผ่านมานั้นมี 3 เส้นทางคือ ระยะทาง 3,675 เมตร บริเวณใกล้ลานจอดรถศูนย์บริการการท่องเที่ยวศรีฐานไปสิ้นสุดที่หลังแปใกล้กับทางเดินเท้า จุดที่ 2 คือ ระยะทาง 4,175 เมตร ด้านตะวันตกของภูกระดึง เริ่มที่ป่าเบญจพรรณในเขตอุทยานถึงทุ่งหญ้าทุ่งดอกเมย และจุดที่ 3 คือ ยาว 4,750 เมตร เริ่มที่ป่าเบญจพรรณใกล้กับหน่วยพิทักษ์อุทยานไปถึงบริเวณทุ่งหญ้าที่เรียกว่าช่องขอน โดยจากการศึกษาระบุว่าเส้นทาง หรือจุดที่ 1 มีความเหมาะสมที่สุด งบประมาณที่เสนอไว้ในปี 2541 จำนวน 250 ล้านบาท แต่ปัจจุบันสูงกว่านี้
ชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตัวกระเช้าเป็นแบบเก๋ง ขนาด 8 ที่นั่ง ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด โดยกระเช้าสูงจากพื้นดิน 42.05 เมตร จำนวนกระเช้า 36-48 คัน อัตราความเร็ว 600 เมตรต่อนาที ระยะเวลาเดินทาง 10.61 นาที คาดว่าใช้เวลาก่อสร้าง 14 เดือน ทั้งนี้ ในปี 2546 ภูกระดึงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 80,000 คน หากมีกระเช้าจะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มได้มากขึ้นถึงปีละ 2-7 ล้านคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น